ลพบุรีจ่อโทษหนัก ชี้เริ่มก่อเหตุตะลุมบอนก่อน

[pTFc-NeunG]

ลพบุรีเอฟซีอาจโดนโทษหนัก หลักฐานชี้เป็นฝ่ายเริ่มก่อน พิจารณาบทลงโทษ 7 พ.ค. นี้

จากกรณีเหตุการณ์จลาจล หลังจบเกมการแข่งขันในศึกลีกภูมิภาค ดิวิชั่น 2 โซนภาคกลางและตะวันออก ระหว่าง ลพบุรีเอฟซี ที่พ่ายแพ้ให้กับ อยุธยาเอฟซี 1-3 ในสนามกีฬา พระราเมศวร (สนามกีฬากลาง จ.ลพบุรี) เมื่อวันเสาร์ที่ 1 พ.ค. ที่ผ่านมา จนเป็นเหตุให้เกิดการตะลุมบอน และมีแฟนคลับอยุธยา เอฟซี บาดเจ็บสาหัส 2 ราย

ล่าสุดทางคณะผู้บริหารลีกภูมิภาคดิวิชั่น 2 นำทีมโดย นายวิมล กาญจนะ ประธานจัดการแข่งขันลีกภูมิภาค พร้อมด้วย นายองอาจ ก่อสินค้า เลขาธิการสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ได้มีการเรียกตัวแทนจากทั้ง 2 ฝ่ายเข้ามาร่วมพูดคุยถึงเรื่องราวดังกล่าวที่เกิดขึ้น

โดยนายสุเมธ สุวรรณพรหม หัวหน้าศูนย์ภาคกลางและตะวันออก กล่าวว่า ตนอยู่ในเหตุการณ์ตั้งแต่เริ่มยันจบเกม เห็นได้ชัดเจนเลยว่า ชนวนเหตุที่สำคัญของความรุนแรงที่เกิดขึ้นก็คือ จังหวะประตูตีเสมอ 1-1 ของ ลพบุรีเอฟซี ในจังหวะนี้ได้มีกองเชียร์ฝั่งเจ้าถิ่นได้แสดงอาการดีใจเกินเหตุ ด้วยการวิ่งมาโบกธงผ่านหน้ากลุ่มกองเชียร์อยุธยาเอฟซี จนส่งผลให้กองเชียร์ อยุธยาเอฟซี เกิดความไม่พอใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น และเป็นต้นเหตุทำให้ตลอดระยะเวลาในการแข่งขันได้มีการเขม่นกันของแฟนฟุตบอลทั้ง 2 ทีม

นอกจากนี้ นายสุเมธ ยังกล่าวอีกว่า ในจังหวะก่อนที่จะจบเกมหลัง อยุธยาเอฟซี ได้ประตูที่ 3 จากการยิงของ ธีโอดอร์ ยูยุน ศูนย์หน้าผิวสีของ อยุธยาเอฟซี ซึ่งหลังจากยิงประตูได้ก็ลงไปนอนเจ็บตรงเส้นหลังของสนาม และนักเตะเบอร์ 15 ของ ลพบุรีเอฟซี เข้าไปกระชาก ธีโอดอร์ พร้อมกับโยนออกไปที่ข้างสนาม เพื่อให้เกมการแข่งขันกลับมาเล่นต่อได้เร็วที่สุด จนทำให้อารมณ์ของกองเชียร์คล้อยตามสถานการณ์ ทำให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น

หลังจากที่ประชุมได้มีการชี้แจงถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเสร็จสิ้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทางคณะกรรมการจะมีการประชุมพิจารณาโทษกันในวันศุกร์ที่ 7 พ.ค. นี้ ขณะที่นายองอาจ กล่าวภายหลังจากในที่ประชุมได้มีการนำหลักฐานต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการจดบันทึกของผู้ควบคุมการแข่งขัน, ภาพข่าวต่าง ๆ รวมถึงคลิปวิดีโอ ก็เป็นที่แน่ชัดแล้วว่า บุคคลใดเป็นผู้ก่อเหตุดังกล่าว และเชื่อได้เลยว่า ในที่ประชุมพิจารณาโทษน่าจะต้องระบุถึงคนที่กระทำผิดได้อย่างชัดเจนแน่นอน


อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก : ไทยรัฐ & kapook.com

[PT-FC-GOLF]

ผลสรุปคือ ห้ามเตะสนามเหย้า 4 นัด เเละปรับเงิน ทั้ง สองทีม ทีมละ สองหมื่นเพราะร่วมกันก่อเหตุ ส่วนเรื่องคดี ห้าม ต้องให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการต่อไป