สรุป ด.2สั่งฟันลพบุรี3หมื่นกว่า,ห้ามใช้รังเหย้า4นัด

by **อ้วน@รังสิต** Thu May 20, 2010 4:23 pm

ความเคลื่อนไหวล่าสุดเกี่ยวกับเหตุการณ์ความวุ่นวาย หลังจบเกมในศึกลีกภูมิภาคดิวิชั่น 2 โซนภาคกลางฯ คู่ระหว่าง ลพบุรี เอฟซี ที่เปิดบ้านพ่ายให้กับ อยุธยา เอฟซี 1-3 เมื่อวันเสาร์ที่ 1 พ.ค.53 ซึ่งในช่วงใกล้ที่จะจบเกม ได้มีนักเตะของลพบุรี เอฟซี แสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสม ต่อนักเตะอยุธยา เอฟซี รวมถึงการที่มีแฟนฟุตบอลของเจ้าถิ่น จัดการตะลุมบอนเข้าอัดกองเชียร์อยุธยา เอฟซี เป็นเหตุให้มีผู้ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสถึง 2 ราย

ซึ่งช่วงตลอดระยะเวลาเกือบ 1 อาทิตย์ที่ผ่านมา ทางด้านคณะกรรมการลีกภูมิภาคดิวิชั่น 2 พร้อมด้วยทีมงานผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ได้ทำการเก็บข้อมูลหลักฐานต่างๆ สำหรับการนำมาสรุปบทลงโทษกับเหตุการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้น โดยเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ ที่ประชุมก็ได้มีการพิจารณาโทษออกมาอย่างเป็นทางการ

"บิ๊กย้อย" นำทัพพิจารณาลงดาบ

ณ ห้องประชุมสมาคมฟุตบอลฯ ได้มีการประชุมเพื่อหาข้อสรุปเกี่ยวกับการลงโทษกรณีเหตุการณ์ความวุ่นวายหลังจบเกมในศึกลีกภูมิภาคดิวิชั่น 2 โซนภาคกลางฯ ในคู่ระหว่างลพบุรี เอฟซี ที่พบกับ อยุธยา เอฟซี นำโดย "บิ๊กย้อย" พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา อุปนายกสมาคม ปธ.ฝ่ายพิจารณาโทษ พร้อมด้วย วิมล กาญจนะ ปธ.จัดการแข่งขันลีกภูมิภาคดิวิชั่น 2, "บิ๊กเปี๊ยก" องอาจ ก่อสินค้า เลขาธิการสมาคมฟุตบอลฯ, ธารา พฤกษ์ชะอุ่ม ผู้ประสานงานของทีมชาติไทย, ดร.กษม ชนะวงศ์ รองเลขาธิการฯ รวมถึง สุเมธ สุวรรณพรหม หัวหน้าศูนย์ภาคกลางฯ ที่อยู่ในเหตุการณ์ดังกล่าว

เปิดทางให้ "สุเมธ" ชี้แจงเต็มที่

โดยที่ประชุม "บิ๊กย้อย" พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา อุปนายกสมาคม ปธ.ฝ่ายพิจารณาโทษ รวมถึง วิมล กาญจนะ ปธ.จัดการแข่งขันลีกภูมิภาคดิวิชั่น 2 ได้เปิดโอกาสให้ สุเมธ สุวรรณพรหม ซึ่งถือเป็นผู้เดียวในที่ประชุมวันนี้ที่เห็นเหตุการณ์ความวุ่นวายทุกอย่าง ได้เป็นผู้อธิบายถึงที่มา และที่ไปของชนวนเหตุของหรือต้นตอของปัญหา

ซึ่งเนื้อหาส่วนใหญ่ที่ทาง สุเมธ ได้ชี้แจง ก็จะคล้ายกับการประชุมเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 6 พ.ค.ที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นการนำเอกสารที่ทางผู้ควบคุมการแข่งขันเขียนรายงาน, คลิปวิดีโอของทั้งฝั่งลพบุรีและอยุธยา เป็นผู้บันทึก เพื่อให้ในที่ประชุมได้รับทราบแน่ชัด

ถก 210 นาทีฟันลพบุรี 3.7 หมื่น

หลังจากที่เริ่มประชุมพิจารณาโทษนับตั้งแต่เวลา 13.00 น. โดยไปสิ้นสุดที่เวลา 16.30 น. ซึ่งก็กินเวลาไปกว่า 3 ชั่วโมงครึ่งหรือ 210 นาทีเต็ม ทางด้าน "บิ๊กย้อย" พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา อุปนายกสมาคม ปธ.ฝ่ายพิจารณาโทษ ก็ได้แถลงข่าวอย่างเป็นทางการ เกี่ยวกับบทสรุปของการลงโทษตามหลักฐาน ที่ได้นำมาชี้แจงโดยมีดังนี้

ปรับเงินลพบุรี เอฟซี เนื่องจากมีกองเชียร์จัดการเขวี้ยงขวดน้ำใส่ไลน์แมนในช่วงครึ่งเวลาหลังเป็นเงิน 5,000 บาท ในช่วงจบการแข่งขันได้มีเจ้าหน้าที่ลพบุรี 1 รายจัดการเดินเข้ามาในสนามขว้างขวดน้ำใส่ผู้เล่นอยุธยา เอฟซี ที่นอนเจ็บถึงในสนาม ซึ่งถือเป็นพฤติกรรมที่ไม่สมควรปฏิบัติ มีโทษปรับเงิน 12,000 บาท พร้อมกับห้ามเข้าสนามยามเมื่อถึงเวลาการแข่งขันตลอดซีซั่น

แต่ตอนนี้ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าบุคคลดังกล่าวเป็นใครและชื่ออะไร โดยจะไปตามสืบให้เป็นที่ทราบแน่ชัดว่าเป็นใคร รวมถึง ปรับเงิน ลพบุรี เอฟซี ในกรณีที่แฟนฟุตบอลปาขวดน้ำใส่แฟนฟุตบอลของอยุธยา เอฟซี หลังจบเกมเป็นเงิน 20,000 บาท รวมจำนวนค่าปรับที่ทาง ลพบุรี เอฟซี จะต้องชดใช้ค่าเสียหายในครั้งนี้ เป็นเงินทั้งสิ้น 37,000 บาท

แบน 2 แข้งถ่อยวานรไฟ 2 แมตช์

ในส่วนของการพิจารณาลงโทษผู้เล่นลพบุรี เอฟซี ที่แสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสมออกมาให้เห็น ในช่วงจบการแข่งขัน ที่ประชุมก็ได้มีบทสรุปออกมาอย่างชัดเจนว่า ในรายของ ตราโอเล่ อันซัวมาเน่ ผู้เล่นผิวสีที่ลงมาแทน ยุทธภูมิ ศรีประทุม น.61 ได้แสดงความไม่มีสปิริต ด้วยการยกและลาก ธีโอดอร์ ยูยุน ผู้เล่นอยุธยา เอฟซี ที่นอนเจ็บอยู่บริเวณเส้นหลัง หลังกดประตูที่ 3 ให้กับ อยุธยา อย่างน่าเกลียด เพื่อที่ตัวเองจะได้รีบเล่น ซึ่งถือว่าเป็นการแสดงความไม่มีน้ำใจนักกีฬาออกมา

ซึ่งจริงๆ แล้วสมควรที่จะได้รับใบแดงตามหลักกติกาสากล โดยที่ประชุมได้สั่งแบนห้ามลงสนาม 2 นัด พร้อมกับตัดคะแนนสะสม 6 คะแนน รวมถึงผู้เล่นของลพบุรี เอฟซี อีก 1 รายอย่าง ภัทรศักดิ์ นิยมรัตน์ ที่เจตนาวิ่งเข้าไปทำร้ายผู้เล่นอยุธยา เอฟซี ด้วยการผลักหน้าเข้าอย่างจังจนล้มลงในที่สุด ซึ่งก็ได้มีการแบนห้ามลงสนาม 2 นัด พร้อมตัด 12 คะแนน โดยโทษแบนดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ในเกมสุดสัปดาห์ที่จะถึงนี้ทันที

ห้ามใช้รังเหย้า งดแฟนเข้าชม 4 นัด

พร้อมกันนั้น "บิ๊กย้อย" พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ก็ได้มีการสั่งแบนไม่ให้ลพบุรี เอฟซี ใช้สนามเหย้าอย่าง "สนามกีฬาพระราเมศวร" (สนามกีฬากลางจ.ลพบุรี) หลังจากไม่สามารถระงับเหตุความวุ่นวายที่เกิดขึ้นได้ รวมถึงยังมีการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แบบโจ่งครึ่ม ซึ่งก็ถือเป็นสาเหตุสำคัญ ที่ทำให้แฟนฟุตบอลเจ้าถิ่นก่อเหตุสะเทือนขวัญดังกล่าว

โดยบทสรุปที่เกิดขึ้นนั้นคือ ห้ามไม่ให้ลพบุรี เอฟซี ใช้สนามกีฬาพระราเมศวรเป็นจำนวนทั้งสิ้น 4 เกม ในศึกลีกภูมิภาคดิวิชั่น 2โซนภาคกลางฯ ในฐานะที่ได้เป็นเจ้าบ้าน โดยจะต้องไปใช้สนามกลางแทน ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับ วิมล กาญจนะ ปธ.ลีกด.2 ที่จะเป็นผู้พิจารณาความเหมาะสมว่าจะให้ไปใช้ที่ไหน

ซึ่งค่าใช้จ่ายที่จะไปใช้สนามกลางในครั้งนี้ ลพบุรี เอฟซี จะต้องเป็นผู้ออกเองทั้หมด ซึ่งก็รวมถึงการแบนไม่ให้แฟนฟุตบอลลพบุรี เอฟซี เข้าไปชมเกมใน 4 นัดดังกล่าวอีกด้วย ส่วนเกมที่ลพบุรี เอฟซี ออกไปเยือนแฟนคลับยังสามารถเข้าชมได้ตามปกติ

ปรับอยุธยา 2 หมื่นเหตุแฟนปาขวด

ไม่เพียงแต่ฝ่ายลพบุรี เอฟซี จะโดนลงดาบอยู่ข้างเดียว ในที่ประชุมยังได้มีการพิจารณาโทษทางฝั่งอยุธยา เอฟซี โทษฐานที่แฟนฟุตบอลได้ขว้างปาขวดน้ำตอบโต้กับแฟนคลับ ลพบุรี เอฟซี ในช่วงจบเกม ซึ่งผลสรุปก็ออกมาในรูปแบบเดียวกับทางลพบุรี เอฟซี คือปรับเงินสโมสรจำนวน 20,000 บาทเช่นกัน

โดยบทสรุปของการลงโทษทั้งหมดที่กล่าวมา ด้านที่ประชุมก็เผยแล้วว่า บางกรณีอาจจะมีการพิจารณาโทษเพิ่มตามความเหมาะสม ซึ่งรวมถึงการเปิดโอกาสให้คู่กรณียื่นอุทธรณ์โทษแบน แต่ทุกสิ่งทุกอย่าง ก็ขึ้นอยู่กับความเหตุของคณะกรรมการพิจารณาโทษด้วยเช่นกันว่าจะเห็นสมควรหรือไม่

ชี้กรณีอาวุธปืนเห็นหลักฐานไม่ชัด

และหลังจากที่ได้มีการสรุปบทลงโทษเสร็จสิ้นลง ผู้สื่อข่าวยังได้สอบถามถึงประเด็นสำคัญที่ได้มีกลุ่มแฟนบอลเจ้าถิ่นบางราย ได้นำอาวุธปืนเข้ามาข่มขู่ฝั่งแฟนคลับอยุธยา เอฟซี

โดยเรื่องนี้ "บิ๊กย้อย" พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา อุปนายกสมาคม ปธ.ฝ่ายพิจารณาโทษ ก็ได้เปิดเผยว่า "ผมเองพยายามที่จะดูรายละเอียดดังกล่าว ทั้งในคลิปและภาพข่าวต่างๆ กับกรณีดังกล่าว แต่ก็ถือว่าหลักฐานที่ได้เห็นในครั้งนี้ บอกเลยว่ายังเห็นไม่ชัดเจน ซึ่งเราเองก็ไม่สามารถที่จะสรุปว่าภาพที่เห็นตกลงแล้วในเป็นอาวุธปืนจริงหรือเปล่า"

ย้ำชัดเหตุวิวาทเป็นเรื่องคดีอาญา

ผู้สื่อข่าวยังได้สอบถามในของเรื่องเหตุวิวาทของแฟนฟุตบอลหลังจบเกมซึ่งถือเป็นเหตุการณ์อันเลวร้ายอย่างยิ่ง โดยเรื่องนี้จะมีผลต่อการพิจารณาโทษเพิ่มเติมหรือไม่ ด้าน พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ก็ได้ชี้แจงให้กับผู้สื่อข่าวได้รับทราบด้วยว่า

"เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับการพิจารณาโทษแต่อย่างใด เพราะถือเป็นคดีอาญาที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจลพบุรี จะเป็นผู้รับผิดชอบ ซึ่งตอนนี้ก็ได้รับแจ้งเข้ามาแล้วว่าแฟนฟุตบอลอยุธยา ได้เข้าแจ้งความเป็นจำนวน 4 คดี และคงเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจลพบุรี ที่จะเป็นผู้ดูแลในส่วนนี้"

โทษปรับน้อยเพราะใช้ 2 มาตรฐาน

จากผลการลงโทษปรับเงินที่เกิดขึ้นดังกล่าว หลายฝ่ายที่เกี่ยวข้องก็ได้ลงความเห็นว่าดูจะน้อยไปสักหน่อย เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มันก็ดูจะไม่ต่างอะไรกับศึกชิงถ้วย ก. ระหว่างเมืองทองฯ ยูไนเต็ด ที่พบกับ การท่าเรือไทย เอฟซี ซึ่งฝ่ายหลังนั้นโดนลงดาบอย่างหนัก

เรื่องนี้ "บิ๊กย้อย" พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ก็ได้ชี้แจงให้ผู้สื่อข่าวได้รับทราบว่า "เหตุการณ์เดียวกันจริง แต่กฎระเบียบรวมถึงมาตรฐานต่างๆ ที่จะนำมาใช้ตัดสินโทษนั้นจะแตกต่างอย่างแน่นอน เพราะศึกสปอนเซอร์ไทยพรีเมียร์ลีก และลีกดิวิชั่น 1 จะใช้มาตรฐานเดียวกัน ส่วนลีกภูมิภาคดิวิชั่น 2 ก็จะใช้อีกกฎระเบียบหนึ่ง ที่ดูจะเบากว่าหากเทียบกับเหตุการณ์เดียวกัน เพราะเราได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในส่วนของรายรับที่ทีมใน ด.2 ยังไม่สามารถกอบโกยได้มากเท่ากับไทยลีก รวมถึงลีกดิวิชั่น 1"

http://www.fat.or.th/